เมื่อมีคนตาย ก็จะต้องมีการจัดงานศพตามศาสนาที่นับถือ ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพวัดดังกรุงเทพ เเละในการจัดงานศพแต่ละแบบนั้นจะมีการจัดงานศพเเบบไทย จัดงานศพแบบจีน และการจัดงานศพแบบศาสนาคริสต์ ซึ่งในเเต่ละแบบนั้นทำพิธีการจัดงานศพดังนี้
1. พิธีการจัดงานศพไทย
- พิธีรดน้ำศพ
ก่อนที่จะนำศพใส่ในโลง จะต้องมีการทำพิธีแรก คือ การอาบน้ำศพ หรือที่เรียกกันว่า “พิธีรดน้ำศพ” โดยใช้น้ำมนต์ผสมน้ำสะอาด โรยด้วยดอกไม้หอมหรืออาจจะใช้น้ำอบผสมด้วย และขันเล็กสำหรับตักน้ำยื่นให้แขก และมีขันขนานใหญ่ที่มีพานรองรับน้ำที่รดมือศพด้วย เจ้าภาพและลูกหลานจะทำการรถน้ำศพก่อน หลังจากนั้นก็จะเป็นแขก คนสนิท บุคคลที่นับถือ เพื่อแสดงความเคารพ ความอาลัย ต่อผู้ที่จากไป
- พิธีการจัดศพลงหีบ
เมื่อเสร็จพิธีรดน้ำศพแล้ว ในการนำศพลงโลงนั้น นิยมมอบให้เจ้าหน้าที่ของวัดเป็นผู้ทำพิธีกรรมต่างๆ ตามประเพณี ความเชื่อ ของท้องถิ่นนั้นๆ
- การจัดงานบำเพ็ญกุศล
คือการสวดอภิธรรม นิยมเริ่มสวดตั้งเเต่วันตั้งศพเป็นต้นไปทุกคืน โดยนิยมสวด 1 คืน , 3 คืน , 5 คืน , 7 คืน (ในบางรายหลังจากทำบุญ 7 วันแล้ว อาจจะสวดพระอภิธรรม สัปดาห์ละ 1 วัน จนครบ 100 วัน หรือจนถึงวันฌาปนกิจศพ) จะนิมนต์พระสวดอภิธรรม 4 รูป และสวด 4 จบ พระสงฆ์ จะลงสวดเวลาตามแต่ละท้องถิ่น (ปกติจะนิยมเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น.)
- พิธีฌาปนกิจ
เป็นพิธีกล่าวอำลาในครั้งสุดท้ายกับผู้ที่ล่วงลับ เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ตาย โดยการเวียนศพต้องเวียนซ้ายต่างกับการเวียนเทียนในงานมงคล การเวียนศพ 3 รอบเป็นการเวียนเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ตาย และเป็นปริศนาธรรมเกี่ยวกับพระไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ในสามภพ คือ ในโลก นรก และสวรรค์ จากนั้นเชิญศพขึ้นสู่เมรุ เจ้าภาพอ่านคำและยืนไว้อาลัย ต่อด้วยเจ้าภาพเชิญเเขกผู้ใหญ่ทอดผ้าบังสุกุล และสุดท้ายเจ้าภาพเชิญแขกขึ้นประชุมเพลิง
- การเก็บอัฐิ
หลังจากที่ฌาปนกิจเสร็จเเล้ว เจ้าภาพบางท่านอาจจะสะดวกในการทำพิธีเก็บอัฐิในวันเผาเลย เพื่อรวบรัดงานให้เสร็จภายในวันนั้น หรือการทำพิธีเก็บอัฐิในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นพิธีที่นิยมกันมากที่สุด โดยนิมนต์พระสงฆ์มาพิจารณา “บังสุกุลอัฐิ” หรือที่เรียกว่า “แปรรูป” หรือ “แปรธาตุ” เมื่อทำพิธีเสร็จเรียบร้อยเเล้ว เจ้าภาพจะเก็บอัฐิใส่โกศ โดยเลือกเก็บอัฐิจากร่างกาย รวม 6 แห่ง คือ กระโหลกศีรษะ 1 ชิ้น แขนทั้ง 2 ขาทั้ง 2 และ ซี่โครงหน้าอก 1 ชิ้น ส่วนอัฐิที่เหลือ รวมทั้ง “อังคาร” (ขี้เถ้า) พิธีลอยอังคาร ทั้งหมดนิยมกวาดรวมเก็บใส่ลุ้งหรือหีบไม้ แล้วเอาผ้าขาวห่อเก็บไว้ เพื่อนำไปบรรจุในที่อันเหมาะสมหรือนิยมนำไปลอยในทะเล
2. พิธีการจัดงานศพแบบจีน
- ขณะเคลื่อนศพลูกหลานจะพากันนั่งก้มหน้าคุกเข่าแถวหน้าโลงศพผู้ตายเพื่อแสดงคารวะครั้งสุดท้าย
- แขกที่มาร่วมงานจะหันหน้าไปทางอื่นหรือหันหลังให้ขณะที่เขายกโลงศพผ่าน
- สามีหรือภรรยา หากเคร่งธรรมเนียมจริง ๆ จะไม่มาร่วมงานศพเลย จะปล่อยให้หน้าที่ส่งศพนี้เป็นหน้าที่ของลูกหลานไป หรือถ้าไม่เคร่งนักก็จะทำแบบแขกที่มาร่วมงานคือ หันหน้า้ไปทางอื่น หรือหันหลังให้ขณะที่เขายกโลงศพผ่าน ซึ่งตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่ป้าสะใภ้ของเราละเมิด คือไปอยู่แถว ๆ โลงศพ คอยเจ้ากี้เจ้าการ คนยกโลงอย่างนั้นอย่างนี้ ญาติผู้ใหญ่เห็นก็รู้สึกว่าขัดธรรมเนียมเก่าแก่ ก็ไปตักเตือนแต่ก็ยังไม่ยอมฟังจนสุดท้ายเลยมีคำเปรยอย่างในเรื่องสั้นออกมา
- หากมีคนตายซึ่งเป็นญาติพี่น้อง ลูกหลาน หรือสามีภรรยาในช่วงไว้ทุกข์ 49 วัน จะทำการเก็บศพไว้ก่อนไม่ทำการฝังหรือเผา ซึ่งข้อนี้จะอยู่ในเรื่องสั้นรูปถ่ายหน้าศพ
- ในกรณีที่ผู้ตายไม่มีรูปเอาไว้ใช้วางหน้าศพก็ให้จัดงานแบบไม่มีรูปไป ไม่ต้องค้นหาเอารูปคนอื่นไปวางแทน แม้จะเป็นพีน้องก็ตามเพราะจะเป็นการแช่งคนนั้น ๆ ให้อายุสั้น
- ในตอนที่เอารูปผู้ตายเข้าบ้าน ตี่จูเอี้ยหรือศาลเจ้าที่จีนจะต้องคลุมด้วยผ้าแดง และสามีหรือภรรยาของผู้ตายจะหลบไปอยู่หลังบ้าน จนกว่าลูกหลานจะจัดวางรูปผู้ตายเสร็จเรียบร้อยจึงค่อยออกมา
- ช่วงไว้ทุกข์ของคนจีนสั้นที่สุดคือ 49 วัน นานที่สุดคือ 3 ปี
- สำหรับคนเคร่งธรรมเนียม ในช่วงไว้ทุกข์ 49 วัน ทุก 7 วันจะจุดธูปคารวะผู้ตายครั้งหนึ่งจนครบ 49 วัน
- สำหรับคนที่เคร่งธรรมเนียม หากญาติพี่น้องเสียชีวิตลงจะไม่ไปทั้งานมงคลและงานอวมงคล อย่างน้อย 1 ปี หรือมากสุด 3 ปี หากมีความจำเป็นจะต้องจัดงานมงคลเช่น การแต่งงาน ก็จะจัดแบบเรียบ ๆ กันเอง
3. พิธีการจัดงานศพแบบคริสต์
ในขั้นตอนเเรกจะทำการเชิญบาทหลวงเพื่อประกอบพิธีสวดวิญญาณ การจัดตั้งศพเพื่อรอการนำไปประกอบพิธีทางศาสนาจะมีรูปไม้กางเขน เทียน 1 คู่ และแจกันดอกไม้วางไว้ทางด้านศีรษะของศพ และมีภาชนะใส่น้ำเสก (น้ำมนต์) ของทางศาสนาคริสต์พร้อมทั้งกิ่งไม้จุ่มไว้ เพื่อให้ผู้ที่มาเคารพศพใช้พรมศพเล็กน้อย เมื่อชาวคริสต์เสียชีวิต ส่วนมากนิยมตั้งศพที่วัดคริสต์ เจ้าภาพจะตั้งศพสวดอธิษฐานก่อนพิธีฝังศพ 3 – 5 – 7 วัน จะกำหนดเวลา 19.00 น.
- กรณีศพอยู่ที่วัด หรือที่บ้าน
– วางพวงหรีด โทนสีของพวงหรีด สื่อความหมายว่าอะไรบ้าง? แต่ละสีนั้นมอบแด่ใคร?
– พรมน้ำเสก 1 ครั้ง
– กล่าวอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ หรือกล่าวขออโหสิกรรมเช่นเดียวกับศาสนาพุทธ
– ทำความเคารพศพโดยคำนับหรือไหว้ก็ได้
- กรณีไปร่วมพิธีศพ
– เคลื่อนศพไปสถานที่ฝัง
– บาทหลวงทำพิธีเสร็จแล้ว จะวางดินเป็นก้อนห่อกระดาษ และดอกไม้
– กล่าวอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ หรือกล่าวขออโหสิกรรม เช่นเดียวกับศาสนาพุทธ
– ทำความเคารพศพโดยคำนับ