สังเกตุบ้างไหมค่ะว่าเวลาเราไปร่วมงานศพจะมีพวงหรีดวางเรียงรายกันอยู่มากมาย ทั้งมีสีสันและมีสีที่สุภาพเรียบหรู โดยการนำเอาดอกไม้มาจัดเรียงตกแต่งตามดีไซน์ของผู้ออกแบบ ตามรูปต่างๆ เช่น พวงหรีดทรงกลม พวงหรีดทรงรี พวงหรีดทรงสามเหลี่ยม และพวงหรีดทรงสี่เหลี่ยม เป็นต้น ทั้งนี้ผู้คนต่างส่งมอบพวงหรีดในการร่วมไว้อาลัยอย่างจำนวนมาก โดยพวงหรีดนั้นใช้เพื่อการเคารพศพ แสดงความเสียใจและอาลัยต่อผู้ที่จากไป ซึ่งประเพณีนี้มีมาตั้งเเต่ยุโรปในอดีตกาล ตามความเชื่อเมื่อเสียชีวิตลงเเล้ว ทูตสวรรค์จะนำวิญญาณของคนที่เสียชีวิตไป และการให้พวงหรีดก็ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อทูตสวรรค์เหล่านี้นั้นเอง
สำหรับต้นกำเนิดพวงหรีดนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอารยธรรมอีทรัสคันในแถบยุโรปตอนใต้ จากการค้นพบมงกุฎที่ใช้แผ่นเหล็กแกะสลักเป็นลายใบไม้ และดอกไม้ สวมใส่เพื่อเป็นเกียรติในการออกรบ และในยุคดรมันมีการใช้หรีดมาประดับศรีษะ โดยใช้ใบไม้สานนั้นเอง
ส่วนในประเทศไทย เริ่มมีมาตั้งเเต่รัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รับอารยะธรรมตะวันตกเข้ามาโดยการพบหลักฐานภาพถ่ายการนำดอกไม้หลากหลายชนิดเข้ามาตกแต่งเป็นวงกลมคล้ายพวงหรีดครั้งเเรก ในพระเมรุของเจ้าจอมมารดาเปี่ยม จึงคาดว่าพวงหรีดได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยและใช้เป็นสื่อแทนความโศรกเศร้าตั้งเเต่สมัยนั้นมา ซึ่งปัจจุบันพวงหรีดได้มีการเปลี่ยนรูปแบบ รูปทรง ตามความทันสมัยและยุคเวลาขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพวงหรีดดอกไม้สด พวงหรีดพัดลม พวงหรีดดอกไม้แห้ง พวงหรีดผ้า และพวงหรีดต้นไม้ สำหรับใครที่ชอบในเเนวรักโลกอาจจะสั่งพวงหรีดต้นไม้ หรือพวงหรีดพัดลม เพื่อสามารถนำไปใช้งานต่อได้ซึ่งเป็นการบริจาคให้กับทางวัดไปด้วยอีกทางหนึ่งค่ะ และหากใครที่ยังไม่รู้ว่า โทนสีของพวงหรีด สื่อความหมายว่าอะไรบ้าง? แต่ละสีนั้นมอบแด่ใคร? ท่านสามารถอ่านบทความดีๆเหล่านี้ได้เลยนะคะ เพราะในสีของดอกไม้เเต่ละชนิดที่เรานำมาจัดพวงหรีดนั้นมีความหมายแฝงอยู่ และมอบให้แด่ใครกันบ้าง?